ระบบห้ามล้อรถจักรยานยนต์ฟังดูอาจจะเป็นทางการซะจนไม่คุ้น ถ้าเรียกว่าระบบเบรคคงจะคุ้นเคยกว่ารูปแบบของ ระบบเบรครถมอเตอร์ไซค์ ในยุคปัจจุบันนั้นสามารถแบ่งออกได้ 2 รูปแบบหลัก โดยแยกตามการจับของล้อ รูปแบบแรกคือระบบเบรคดั่งเดิม ดรัมป์เบรค (Drum Brake) ซึ่งจะเริ่มทำงานทันทีเมื่อเราส่งกำลังไปยังแป้นเบรค หรือก้านเบรค ผ่านปั้มเบรคด้านในที่จะทำการกระชับผ้าเบรคเข้ากับอุปกรณ์เพื่อทำการห้ามล้อ โดยแรงจากการเบรคจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของการกดแป้นเบรค

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์แล้วระบบเบรคแบบดรัมป์ยังคงมีให้เห็นกันอยู่ โดยเฉพาะในรถมอเตอร์ไซค์ขนาดไม่เกิน 125 ซีซี และระบบดรัมป์เบรคหลังในรถขนาด 150 ซีซี ที่เห็นๆ อยู่ตอนนี้น่าจะมี Kawasaki GTO, YAMAHA Mate 100, SUZUKI Viva, HONDA Wave Z

ดรัมป์เบรค (Drum Brake)

รูปแบบที่ 2 ระบบดิสก์เบรค เป็นรูปแบบที่เห็นกันจนชินตาในยุคนี้ไม่ว่าจะในรถเล็กหรือใหญ่ ซึ่งก็แบ่งออกย่อยๆ ไปอีกตามรูปแบบของจานดิสก์ ซึ่งหลักการทำงานของดิสก์เบรค คือ ใช้แรงกดจากการบีบ หรือเบียดแป้นเบรค ส่งไปยังระบบปั้มเบรคบนเพื่อส่งน้ำมันเบรคเข้าไปหล่อลื่นตัวคาลิปเปอร์ ที่ติดตั้งอยู่ที่บริเวณจานเบรค และตัวคาลิปเปอร์จะทำการจับ กับจานเบรคเพื่อทำการชะลอรอบการหมุนของวงล้อ โดยเป็นการลดแรงกระทำที่จะเกิดขึ้นโดยตรงต่อวงล้อ เพื่อหลีกเลี่ยงการชำรุดของตัวแกน และสามารถกระจายแรงกดได้ดีกว่าการห้ามล้อตรงแกนกลาง

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในยุคปัจจุบัน ยังมีการผสมระบบเบรคแบบดรัมป์เข้ากับระบบดิสก์ในรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 110 - 150 ซีซี ส่วนรถที่มีซีซี สูงกว่านี้จะนิยมใช้ระบบเบรคแบบ ดิสก์หน้าหลังมากกว่า เพราะมีความสามารถในการชะลดรอบการหมุนที่ดีกว่า แต่ระบบเบรคแบบดิสก์เบรคนั้นจะมีอุปกรณ์ที่ดูยุ่งยากกว่าระบบดรัมป์เบรค

ดิสก์เบรค

นวัตกรรมระบบห้ามล้อ

ระบบเบรคในปัจจุบันมีระบบช่วยเหลือเพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบพื้นฐานอย่าง ABS หรือ Anti-Lock Brake System ที่สามารถแปลได้ว่าเป็น ระบบป้องกันล้อล็อคตาย โดยระบบเบรคนี้จะมีข้อดีที่ช่วยป้องกันไม่ให้วงล้อนั้นมีอาการล็อค โดยระบบจะมีการติดตั้งตัว Sensor ไว้วงในสุดของจานดิสก์เบรค เพื่อเป็นจุดชี้วัดจำนวนการหมุนที่ลดลงอย่างรวดเร็วของวงล้อ sensor จะทำการตัดกำลังของคาลิปเปอร์เบรค เพื่อให้วงล้อนั้นยังคงหมุนต่อไป และทำให้ตัวรถนั้นไม่สูญเสียการควบคุม แต่ก็แลกมาด้วยระยะเบรคที่จะยาวกว่ารถที่ไม่มีระบบ ABS

ระบบต่อมาคือการพัฒนาแบบลูกผสม CBS หรือ Combine Brake System ที่จะเป็นการนำเอาข้อดีของระบบเบรคแบบดรัมป์ และดิสก์มาผสมกัน โดยระบบเบรคนี้จะทำงานจากการแรงกดหรือบีบ แป้นเบรค-ก้านเบรค และทำการกระจายแรงเบรคไปยังฝั่งตรงข้าม ยกตัวอย่างเช่น เราบีบเบรคล้อหน้าอย่างรุนแรง ระบบจะทำการห้ามล้อหลังแบบอัตโนมัติโดยที่เราไม่ได้เหยียบแป้นเบรก ซึ่งระบบนี้จะทำให้ได้ระยะเบรกสั้นกว่าระบบ ABS แต่มีโอกาสสูงที่วงล้อจะเกิดอาการล็อกจากการห้ามล้อแบบเฉียบพลัน จนทำให้สูญเสียการควบคุม

รูปแบบการพัฒนาการเบรคยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความปลอดภัยของผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์เป็นสำคัญเชื่อได้ว่าต่อไปในอนาคตระบบเบรคของรถมอเตอร์ไซค์จะดียิ่งขึ้นไปกว่านี้ อาจจะมีระบบเซนเซอร์เหมือนรถยนต์ก็เป็นได้ ไม่ว่าระบบเบรคจะดีมากขึ้นไประดับไหน สติในการขับขี่รถยังคงสำคัญอยู่เสมอมีสติก่อนสตาร์ททุกครั้งดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก https://superbiketrends.com/