ผลสำรวจนี้ได้มาจาก RAC ของอังกฤษ ซึ่งเป็นองค์กรชื่อดังที่อยู่บนท้องถนนคอยบริการช่วยเหลือผู้ขับขี่ทั่วเกาะอังกฤษตลอด 24 ชั่วโมง เทียบบ้านเราเหมือนบริษัทประกัน RAC เผยถึงข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้และจัดลำดับเหตุผลที่ถูกเรียกใช้บริการมากที่สุดในกรณีของมอเตอร์ไซค์เสียดังนี้

อันดับ 10 หัวเทียน น้ำมันท่วม
เป็นสาเหตุการเสียสำหรับมอไซค์รุ่นเก่าๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ รถสมัยใหม่ที่เป็นระบบหัวฉีดอาจจะไม่ค่อยเกิดเหตุการนี้เท่าไหร่ แต่มอเตอร์ไซค์คลาสสิคหากออกมาวิ่งบนท้องถนนแล้วละก็ อาจจะเกิดเหตุน้ำมันท่วมหรือหัวเทียนสกปรกจนสตาร์ทไม่ติดก็เป็นได้

อันดับ 9 คลัช
ไม่ว่าจะทำงานผ่านระบบสายเคเบิ้ลหรือแบบไฮดรอลิกก็ตาม คลัชนั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่อาจจะทำให้รถคุณเสียด้วยเรื่องง่ายๆ เวลาคลัชใกล้หมด มันอาจจะมีสัญญาณเตือนบ่งบอกว่าควรจะเปลี่ยน แต่หากสายคลัชขาดหรือปั้มไฮดรอลิกส์รั่วละก็ จะมีผลให้คุณไม่สามารถใช้งานคลัชได้เลย ทุกอย่างพร้อมแต่ขับไม่ได้

อันดับ 8 เกียร์
ปกติแล้วระบบเกียร์ของมอเตอร์ไซค์นั้นแกร่งและไม่ค่อยจะเสียได้ง่ายๆ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ ภายใต้ภาวะกดอันกดดัน มันก็จะเสื่อมและพัง คันเกียร์ที่บิดเบี้ยวจากการเปลี่ยนเกียร์ผิดจังหวะ เฟืองพัง หรือโซ่ขาด ก็จะทำให้มอเตอร์ไซค์คุณต้องหยุดนิ่งอยู่ข้างถนนได้เลย

อันดับ 7 อัลเทอร์เนเตอร์
มันมักจะพังเอาในเวลาคับขันละครับ ระหว่างขับอยู่ดีๆ แบตเตอร์รี่ก็ไกล้หมด คุณคาดว่าจะไปถึงปลายทางได้ทัน แต่สุดท้ายไฟก็เกลี้ยงแบต ส่วนใหญ่แล้วไปไม่ค่อยถึงที่หมายก็แบตหมดทุกที ฉะนั้นอย่าคิดในแง่ดีเกินไปแล้วตัวนี้พังนะครับ

อันดับ 6 ตัวอิมโมบิไลเซอร์พัง
จากประสบการณ์ของเรา เมื่อระบบอิมโมพัง หรือทำงานผิดพลาด ไปไหนไม่ได้ทั้งคนทั้งรถ อุปกรณ์ชิ้นนี้อาจจะไม่สามารถหยุดยั้งโจรมาขโมยยกรถใส่ท้ายรถกระบะไปได้ แต่แน่นอนว่าหากมันทำงานผิดพลาดขึ้นมา แม้แต่เจ้าของก็ขี่ไปไหนไม่ได้เช่นกัน

อันดับ 5 ECU/ระบบจัดการเครื่องยนต์
มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆนั้นพึ่งพาระบบอิเลคทรอนิกส์มากขึ้นทุกวัน แต่ก็น่าแปลกที่ว่าปัญหาระบบอิเลคทรอนิคส์ไม่ได้อยู่ลำดับต้นๆ แต่ลงมาที่ลำดับ 5 แต่มันก็คาดเดาไม่ได้ละครับว่าระบบคอมพิวเตอร์มันจะทำงานผิดพลาดเอาตอนไหน แถมประกันก็ไม่ครอบคลุมซะด้วย ไม่ว่าคุณจะขับขี่อย่างระมัดระวัง หรือดูแลรถมอเตอร์ไซค์ของคุณให้ดียังไงก็ตาม แต่เหตุการณ์ ECU ทำงานผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้เสมอ

อันดับ 4 ปัญหาเครื่องยนต์
อันนี้แหละครับที่มอไซค์เสียของจริง อย่างเช่นก้านสูบหลุดออกมา หรือโซ่ขับภายหลุด เป็นผลให้วาล์วหลุดไปรวมกับหัวสูบจนหลอมรวมกลายเป็นปฏิมากรรมชั้นยอดอยู่ในเครื่องยนต์ อย่าลืมเข้าศูนย์ตามระยะ หมั่นสังเกตอาการรถคุณอยู่เป็นประจำ

อันดับ 3 อุบัติเหตุ
บางคนอาจจะแย้งว่าไม่นับว่าเป็นเรื่องของรถเสีย แต่ไม่มีอะไรที่จะหยุดรถมอเตอร์ไซค์ของคุณไม่ให้วิ่งได้เท่ากับการที่คุณวิ่งไปลงหลุม ตกลงข้างทาง ไถลลื่น หรือเฉี่ยวกับรถยนต์คันอื่น

อันดับ 2 แบตเตอร์รี่หมด
สมัยนี้เราคงลืมภาพที่ต้องเคยลองสตาร์ทด้วยเท้าทั้งวันจนเมื่อยไปทั้งตัวกันแล้ว แต่หากคุณมาที่รถมอเตอร์ไซค์คันโปรด กดปุ่มสตาร์ทแล้วได้ยินเสียงตอบรับอันไม่พึงประสงค์แล้วละก็ คุณอาจจะอยากได้คันสตาร์ทแถมมากับรถด้วย แม้ว่าปกติแล้วการที่แบตเสื่อมนั้นจะมีสัญญาณบอกเหตุแต่เนิ่นๆ แต่บางทีการพลาดพลั้งเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืนก็อาจจะทำให้วันที่แสนหรรษากลายเป็นวันสุดเศร้าเอาได้ เพราะมอเตอร์ไซค์สมัยนี้มาพร้อมระบบอิเลคทรอนิคส์ที่ลองสตาร์ทด้วยการเข็นรถอาจจะใช้ไม่ได้หากแบตต์อ่อนเกินไป

อันดับ 1 ยางรถ
ตรวจสอบยางรถอยู่เสมอนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะยางแบนเป็นเหตุผลอันดับหนึ่งที่คุณจะไม่สามารถขับมอไซค์ไปไหนมาไหนได้ ปกติแล้วคุณไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้หากต้องไปเจอตะปูตามท้องถนน หรือหลุมหฤโหดที่คุณมองไม่เห็นจนกว่าจะเข้าใกล้ ที่พร้อมทำลายยางอันสวยงามของคุณในพริบตา แต่ทุกๆอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด จะยังมีสาเหตุจากการไม่ใส่ใจดูแลยางให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ หากยางเสื่อมอายุการใช้งานก็ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นหมั่นตรวจสอบสภาพยางบ่อยๆ บางทีตะปูยังแค่เพิ่งเสียบๆขอบล้อ รีบเอาออกเสียก่อนที่คุณจะซัดโค้งหน้าแล้วดันตะปูลึกเข้าไป

ขอบคุณข้อมูลจาก visordown.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://mocyclover.com/