ต้องยอมรับในความคิดของ KTM ที่แรงกล้าด้วยการผลิตมอเตอร์ไซค์ที่ให้ทั้งความแรงและเร็ว ซึ่งถ้าเทียบเป็น ซีซี หรือขนาดความจุ บอกได้เลยว่า KTM ไม่เป็นรองค่ายไหนเลย ตลอดจนเรื่องราวของการแข่งขัน Ready to Race จากแต่ก่อน KTM จะสร้างแต่รถสูตรทางฝุ่น จนมาถึงรถแบบ Super Moto แล้วถึงเริ่มมีการผลิตมอเตอร์ไซค์ทางเรียบออกมา แม้รูปทรงอาจะเปลี่ยนไป แต่รถทุกคัน เครื่องยนต์ทุกตัว มันมีพื้นฐานมาจาก รถสูตรทางฝุ่น ซึ่งจะเน้นการตอบสนองคันเร่งที่รวดเร็ว นอกจากนั้นยังมี Sport Production ตัว Top อย่าง KTM RC 8R ที่มากับเครื่องแบบ V twin ในขนาด 1,195 ซีซี

ครั้งนี้ KTM สร้างเซอร์ไพร์สอีกรอบด้วยรถแข่งที่ใครๆ ก็สามารถซื้อได้ ไม่ต้องมีทีมแข่ง ไม่ต้องมีประสบการณ์ แล้วก็ไม่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์เป็น ก็ซื้อได้ เพียงแต่รถรุ่นนี้ มันมีความจำกัดตรงที่ มีการผลิตออกมาแค่ 100 คัน เท่านั้น! แต่ถ้าใครซื้อได้ ทาง KTM เขาก็มีโปรแกรมฝึกทักษะการขับขี่จากนักแข่งระดับ World GP มาเป็นผู้ฝึกสอน และรถรุ่นที่ว่านี้ก็คือ KTM RC 8C โดยมีแผนปล่อยรถวางจำหน่ายในปีหน้า แต่ก็เชื่อได้เลยว่า ณ เวลานี้ รถเกือบทั้งหมด น่าจะมีคนจองไปหมดแล้ว KTM RC 8C ไม่ได้ใช้เครื่องแบบ V twin ขนาด 1,195 ซีซี แต่จะใช้เครื่องที่สันดาปด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเบ็นซิน Gasoline และเป็นเครื่องยนต์แบบ Parallel twin แน่นอน มันมาด้วยเครื่องแบบ 4t

ซึ่งพื้นฐานของตัวเครื่องยนต์ และเฟรม มาจาก KTM 890 Duke หรือจะว่ากันจริงๆ มันก็คือ 890 Duke แบบ Upgrade แถมด้วยการใส่ Faring ในแบบ Real Racing จนรถมีหน้าตาใกล้เคียงกับตัวแข่งในระดับ Moto GP กันเลยทีเดียว แต่จะว่าไปแล้ว ก็อาจจะมีคนที่ไม่เชื่อและคิดว่า KTM น่าจะเอาเปลือก Faring ของตัวแข่งมาใส่แล้วเปลี่ยนท่อ ทำสี จนทำให้รถมีมุมมองในแบบตัวแข่ง มาครับ เดี๋ยวครั้งนี้ทีมงานจะพาไปดูเลยว่ามีอะไรบ้างที่เปลี่ยนไป และอันไหน? ที่ไม่เข้าพวกจนไม่สามารถขับขี่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากคิดจะเอาไปซิ่งบนถนน

ตัวเฟรม Frame กับเครื่องยนต์ Engine รวมถึงถังเชื้อเพลิง Gastank ยังเป็นแบบเดียวกับ KTM 890 Duke แต่จะมีการเปลี่ยนสวิงอาร์ม Swing arm ไปใช้แบบที่ใกล้เคียงกับตัวแข่ง Moto 3 และมีการเคลือบผิวให้เป็นสีดำด้วยวิธีการที่เรียกว่า Anodize กลับมาที่พื้นที่ในการติดตั้งถังเชื้อเพลิง KTM RC 8C โยกตัวถังเชื้อเพลิงมาอยู่ที่ใต้เบาะคนขี่ และมีฝาถังอยู่ที่พนักพิงก้นคนขี่ มาด้วยขนาดความจุ 16 ลิตร พร้อมแผ่นกันกระฉอกด้านในตัวถังน้ำมัน ช่วยให้เวลาที่ขี่ คนขี่ จะไม่ประสบปัญหาการถ่ายน้ำหนักของน้ำมันจนทำให้รถเสียการควบคุม
ชุดงาน Faring ที่ใช้ประกอบลงไปบน KTM RC 8C จะเป็นการใช้ ABS และชิ้นงาน Carbon Fiber ซึ่งงานพลาสติกของ KTM ก็ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน เพราะถ้าไม่แน่จริงแล้ว KTM นำไปประกอบรถสูตรทางฝุ่น ก็มีหวังเข้าเส้นชัยแบบไม่ครบส่วนแน่ๆ ส่วนงาน Carbon Fiber ก็หายห่วง เพราะงานแบบนี้เขาทำโดยมีการควบคุมอุณหภูมิและบางชิ้นงานก็หลีกเลี่ยง Carbon dioxide จึงทำให้งานมีทั้งความทนทานและนอกจากนั้นงาน Carbon Fiber ทุกชิ้นก็มี QC ที่เท่ากันทั้งหมด ส่วนวงล้อที่ใช้ก็มาจากสำนัก DYMAG ซึ่งขึ้นรูปด้วยวิธีการ Forged ให้ความแข็งแกร่งและทนเป็นอย่างมาก โดยเป็นรุ่น UP7x

ขุมกำลังของ KTM RC 8C เป็นการนำเอาเครื่องของ KTM 890 Duke มาพัฒนา โดยใช้วิธีการเขียน Map ใหม่ทั้งหมด ยกเรือนลิ้นเร่งที่มีขนาดใหญ่แบบเดียวกับตัวแข่งมาใส่ ชุดแคมชาร์ฟและเกียร์ก็มีการพัฒนามาเป็นอย่างดีสำหรับการขี่ในเซอร์กิต งานท่อไอเสียเป็นฝีมือจาก AKRAPOVIC ตั้งแต่คอลากยาวมาจนถึงปลายท่อเลยทีเดียว จุดเด่นที่สุดของรถก็คือ Winglet ที่แปะอยู่บริเวณใต้หน้ากากนั่นเอง ซึ่งบางมุมก็ดูประหลาด และบางมุมก็ดูสวยดี แต่นอกจากความสวยหรือไม่สวยนั่นก็คือการสร้าง Downforce เพื่อทำให้รถเสถียรนั่นเอง
Suspension ของ KTM RC 8C ด้านหน้าเป็น Front End แบบ Telescopic ชนิด Upside Down จากสำนัก WP รุ่น X-ACT PRO 7543 ให้ระยะการทำงาน 119 mm. สามารถปรับตั้งได้แบบ Fully Adjustable ด้านหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยว WP รุ่น APEx PRO 7746 มีระยะการยุบตัว 119 mm. และเป็นแบบ Fully Adjustable ชุดห้ามล้อ Braking System สำหรับ Front Wheel เป็นจานเบรกแบบ Semi-floating brake discs ขนาด 290 mm. คาลิเปอร์ Brembo Stylema Monobloc 4 piston แบบ Radially mounted ปั๊มบนเป็น Brembo 19 RCS Corsa Corta

Rear Wheel เป็นแบบ Aluminium Forged เบรกหลัง Brembo twin piston ใช้จานเบรกแบบ Floating ขนาด 230 mm. ขนาดยางของ KTM RC 8C ด้านหน้าใช้ยาง 120/70 ZR17 ยางหลังขนาด 180/60 ZR17 และสามารถใส่เบ่งยางไปใส่ขนาด 200/55 ZR17 ได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มสมรรถนะตอนที่เข้า-ออกโค้งด้วยความเร็ว มิติตัวรถของ RC 8C มีความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 226 mm. ความสูงของเบาะนั่ง 820 mm. และระยะห่างฐานล้อ 1,399 mm.
ปิดท้ายด้วยเรื่องของราคาค่าตัว 2022 KTM RC 8C คันนี้เป็นรุ่น Limited Edition มีจำนวนเพียง 100 คัน และแต่ละคันมีราคาราวๆ 1,280,000 thb โดยราคานี้รวมการฝึกฝนการขับขี่ที่ Circuito de Jerez – Angel Nieto ประเทศสเปน พร้อมทั้งจะได้เรียนกับครูฝึกอย่าง Dani Pedrosa และ Mika Kallio ซึ่งเป็นนักแข่งระดับ World GP ทั้งสิ้น
 

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://bigbike.boxzaracing.com/