close

กรอกคำที่ต้องการค้นหา

ปิด

Café Racer สไตล์แต่งรถที่จะอยู่ไปอีก 100 ปี

22 ตุลาคม 2564

visibility208

  


 

แนวทางการแต่งรถบิ๊กไบค์ที่กำลังฮอตฮิตอีกแนวหนึ่งในช่วงปีนี้นั้นคงต้องยกให้กับ Café Racer ที่ฉุดกระชากหนุ่มๆ (รวมถึงสาวๆ) หลายต่อหลายคนให้กลับไปใช้ชีวิตแบบโก๋ๆ ร็อกเกอร์ในยุค 60s อีกครั้ง


What is Café Racer?
หากเราย้อนกลับไปดูจุดกำเนิดของ Café Racer นั้นจะเห็นได้ว่า วัฒนธรรมการแต่งรถ การขับขี่ รวมไปถึงธรรมเนียมปฏิบัติต่างๆ ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ หรือเพิ่งเกิด เพราะเมื่อสาวความกันจริงๆ แล้วก็ย้อนไปไกลถึงยุค 60s โน่นเลยทีเดียว

ยุคสมัยที่เพลงร็อควงดังอย่าง The Beatles, The Doors, The Rolling Stones, Led Zeppelin, The Beach Boys, Pink Floyd, Bob Dylan และดาราสุดเท่อย่าง James Dean กำลังแผ่อิทธิพลในหมู่วัยรุ่นอังกฤษ (บ้านเราก็เข้าทำนองโก๋หลังวัง) พวกเขาห้าว ชอบใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรี และมีสไตล์ ทีนี้ลองมาดูกันว่า หากคุณจะทำความรู้จัก Café Racer คุณต้องรู้จักอะไรบ้าง
Café Racer คำนี้หมายถึงรถมอเตอร์ไซค์ที่ตกแต่งเอาไว้เพื่อประลองความเร็วบนท้องถนนหลวงในยุค 60s ซึ่งมีรูปแบบเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ และยังรวมถึงนักขี่ที่มีธรรมเนียมเฉพาะกลุ่ม โดยเห็นได้ชัดจากชุดที่สวมใส่จะออกแนวนักแข่งและมีสไตล์แฟชั่นในยุคนั้นผสมเข้าไปด้วย โดยนักบิดที่ชอบความเร็วในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสาวกเพลงร็อก และเรียกขานตัวเองว่า Rockers หรือไม่ก็ Greasers
พวกเขาจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มแก๊งตามคาเฟ่ต่างๆ และมีเกมส์มันๆ อย่าง The Ton ที่มีกติกาว่าเมื่อหยอดเพลงร็อกที่ตัวเองชื่นชอบในตู้เพลงไว้ ใครที่อยากประลองความเร็วก็บิดมอเตอร์ไซค์ของตัวเองไปตามเส้นทางที่ตกลงกัน ซึ่งว่ากันว่าถ้าแน่จริงต้องทำความเร็วให้ได้ 100 ไมล์ต่อชั่วโมง (160 กม.ต่อชั่วโมง) แล้วกลับมายังคาเฟ่ก่อนที่เพลงจะจบลง (แถมมีการวางเดิมพันกันด้วยว่าใครจะมาถึงในท่อนไหนของเพลง...เร้าใจซะนี่กระไร)
คอ Café Racer แท้ๆ ในยุคนั้นจะนิยมแต่งรถจากค่ายอังกฤษ เยอรมัน อิตาลี หรือไม่ก็อเมริกา จนปี ค.ศ. 1970 รถจากฝั่งญี่ปุ่นก็เริ่มเข้ามาตีตลาด แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก 

ถ้าสังเกตง่ายๆ ว่ารถแนว Café Racer จะเปลือยๆ เพื่อลดน้ำหนักและความเทอะทะ แฮนด์จับที่โช้กอัพหน้า ถังน้ำมันเรียว เบาะยาวหรือเบาะท้ายมด (ดูอธิบายเพิ่มในหน้ามอเตอร์ไซค์-ถัดไป) เกียร์โยงแบบรถสนามแข่ง คือนั่งคร่อมแล้วตัวจะโน้มไปข้างหน้าเพื่อการขับขี่เมื่อใช้ความเร็วสูง
หลังปี ค.ศ. 1978 วัฒนธรรม Café Racer ก็ซบเซาลงและเงียบหายไป จนเมื่อกระแส Vintage แพร่ระบาดไปทั่วโลกอีกครั้งในช่วงเกือบ 10 ปีผ่านมานี้ ก็ทำให้ Café Racer ฟื้นคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
ปัจจุบัน Café Racer ที่ตกทอดมาถึงยุคนี้ยังคงเหลือเพียงธรรมเนียมการแต่งรถ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย คาเฟ่นัดรวมพล ส่วนเรื่องประลองความเร็วด้วยกติกาสมัยก่อนนั้นไม่มีให้เห็นแล้ว เหลือแต่แต่งไว้ขี่ท่องเที่ยวซะมากกว่า
นักบิด Café Racer นั้นจะออกแนว Rockers ในยุค 60s ซะเป็นส่วนใหญ่ และสำหรับคอ Café Racer ตัวจริงก็มักจะสรรหาเครื่องเคราการแต่งตัวให้เข้ากับสไตล์ของรถ มีอะไรบ้างไปดูรายละเอียดกัน

หมวกกันน็อค 
ส่วนใหญ่ชาว Café Racer จะใส่หมวกกันน็อคแบบเปิดคาง หรือไม่ก็ครึ่งใบแบบมีหนังครอบข้างเพื่อป้องกันใบหู แต่ส่วนใหญ่จะนิยมเต็มใบเปิดคางซะมากกว่าเพราะดูแลรักษาง่าย แต่ปัจจุบันคนก็หันมาเล่นหมวกแบบเต็มใบปิดคางกันเยอะขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะมันปลอดภัยมากกว่า

แว่นตากันลม 
แว่นตากันลมหรือ Goggles เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Café Racer โดยเจ้าแว่นนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากสนามแข่งสมัยก่อน ปัจจุบันหลายคนหันมาใส่แว่นกันแดดทรงวินเทจแทนก็ถือว่าเข้ากันได้

ถุงมือ
ถุงมือเป็นได้ทั้งแฟชั่น และอุปกรณ์เสริมที่ดีเพราะช่วยให้จับยึดได้มั่นคงยิ่งขึ้น ถ้าย้อนไปแบบยุค 60s จริงๆ ก็คงต้องเป็นถุงมือหนังแบบยาว ซึ่งช่วยป้องกันการถลอกของมือและท่อนแขนเวลาล้มได้ดี


 

เสื้อแจ๊กเกต 
สมัยก่อนนั้น Café Racer แถบอังกฤษจะนิยมใส่เสื้อหนังซะเป็นส่วนใหญ่ แต่บ้านเราก็ใส่กันบ้าง หันมาเล่นแจ๊กเกตผ้ากันบ้างเพราะอากาศที่ร้อนจนตับแลบ หลักในการเลือกแจ๊กเกตง่ายๆ ก็คือต้องกระชับพอดีตัว เพื่อลดแรงเสียดทานลมและคล่องแคล่วเวลาขับขี่ 


 

กางเกง 
หลายคนเลือกกางเกงหนังแบบมีสนับในตัวเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เล่นยีนส์หรือกางเกงผ้าหนาๆ แบบเข้ารูป โดยอาศัยหลักการเดียวกับการเลือกแจ๊กเกต

รองเท้า 
หากถอดแบบในสนามแข่งยุคนั้นจริงๆ ก็ต้องเป็นบู๊ตหนังสไตล์นักแข่ง ถ้าออกแนวอเนกประสงค์หน่อยจะใช้หุ้มข้อหนังก็เท่ไปอีกแบบ

 

Physical Café Racer
ในยุคก่อนนั้น ธรรมเนียมอย่างหนึ่งของการแต่งรถแนว Café Racer คือการมิกซ์หรือยำรถกัน ยกตัวอย่างเช่น เอาเฟรมของรถ Norton มาใส่เครื่องยนต์ของ Triumph รุ่น Bonneville แล้วตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Triton ซึ่งแนวทางนี้ก็ยังมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ส่วนเอกลักษณ์อื่นๆ ที่เห็นเด่นชัดในการตกแต่งรถประเภทนี้ก็คือ


แฮนด์ยึดกับโช๊ค 
หลักการที่เอาแฮนด์รถมายึดกับโช้กหน้านั้นก็เพื่อให้ง่ายต่อการหมอบในขณะที่รถใช้ความเร็วสูง (Aerodynamics) เมื่อแฮนด์อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ และเป็นแนวกดก็จะช่วยในเรื่องการทรงตัวอีกทางหนึ่ง


เปลือย และปลดสิ่งไม่จำเป็นออก 
แนวคิดของการแต่งแบบ Café Racer คือความแรง ฉะนั้นสิ่งใดที่เป็นอุปสรรคจะถูกปลดเปลื้องออกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจึงเห็นรถประเภทนี้แบบถึงเนื้อใน ทั้งโครงรถ ท่อไอเสีย เครื่องยนต์ สายน้ำมัน สายไฟต่
างๆ หรือบางคนก็นิยมใส่ครอบข้างตัวถังแบบรถแข่งในยุค 60s ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่อยู่ในเกณฑ์การแต่งแบบ Café Racer เหมือนกัน


ถังน้ำมันเว้าหลบเข่า
ถังน้ำมันที่อยู่ในแนวเข่านั้นจะเว้าเข้าไป ทั้งนี้ก็เพื่อเอาไว้หนีบหัวเข่าให้ชิดติดกับถัง เพื่อลดแรงเสียดทานลมให้มากที่สุด

 

คันเกียร์ และพักเท้าถอยมาด้านหลัง 
ปกติเราจะเห็นรถสแตนดาร์ดมีคันเกียร์และพักเท้าอยู่ใกล้กับเครื่องยนต์ แต่การแต่งแนวนี้ก็เพื่อการใช้ความเร็วที่มากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้เข้าหลักสรีระเวลาขี่และการทรงตัวจึงต้องโยงเกียร์ไปและย้ายพักเท้าไปทางด้านหลัง


เบาะสั้นหรือท้ายมด
รถที่ออกมาจากโรงงานจะมีเบาะที่ยาว การแต่งเพื่อขับขี่แข่งขันจึงไม่จำเป็นต้องมีที่ว่างสำหรับคนซ้อน ดังนั้นเบาะจึงถูกหันออกให้เหลือเพียงที่นั่งเดียว ส่วนใครที่ใช้งานแบบอเนกประสงค์ก็มักจะหาตัวครอบแทนที่ เรียกกันภาษาบ้านๆ ว่าท้ายมดหรือตูดมด ตูดมดไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มันคืออุปกรณ์เสริมสำหรับหลักการ Aerodynamics คิดง่ายๆ เหมือนรถยนต์มีสปอยเลอร์หลัง

คาดการณ์ได้ว่าการแต่งรถแนวนี้ไม่มีทางหายไปอย่างแน่นอนอาจจะมีเงียบๆ ไปบ้างแต่เดี๋ยวก็จะกลับมานิยมอีกเรื่อยๆ อีก 100 ปี หรือมากกว่านั้นรถมอเตอร์ไซค์ Café Racer ยังจะมีอยู่ให้ชาว Biker ได้เห็นอยู่เรื่อยๆ แน่นอน


ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.sanook.com/
 

newsmode

ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง

sell

โปรโมชั่นสุดพิเศษ



สินค้าที่คุณอาจชอบ

Flash Sale
- {{ numeral( ((value.unitprice - value.discount_price) / value.unitprice)*100 ).format('0,0') }}% - {{ numeral( value.coupon_per ).format('0,0') }}% - {{ numeral( ((value.unitprice - value.discount_price) / value.unitprice)*100 ).format('0,0') }}% - {{ numeral( value.coupon_per ).format('0,0') }}%
{{ value.product_name }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.price_min).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.discount_price).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.discount_coupon).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.discount_price).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.price_min).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.discount_price).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.discount_coupon).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.discount_coupon).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.discount_price).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }}
ราคาพิเศษ ราคาหลังใช้คูปอง
New ผ่อน 0% Pre order
- {{ numeral( value.coupon_per ).format('0,0') }}%
{{ value.product_name }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.price_min) .format('0,0') }} ฿{{ numeral(value.discount_coupon).format('0,0') }}
฿{{ numeral(value.unitprice).format('0,0') }}
ราคาหลังใช้คูปอง
New ผ่อน 0% Pre order

remove_red_eye{{ value.product_views }}

favorite

content_copy

สินค้าหมด

รับโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษก่อนใครที่ Motofiix