น้ำมันเครื่อง!! ช่วยทำให้เครื่องยนต์หล่อ

น้ำมันเครื่่อง ช่วยอะไรบ้าง

-น้ำมันเครื่องช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์

-ป้องกันการเกิดสนิม

-ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายขึ้น พร้อมขับขี่ได้สนุกมากขึ้นกว่าเดิม น้ำมันเครื่องที่ดีต้องมีความหนืดและใส

น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท

น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา (Synthetic)
- ผลิตจากน้ำมันแร่(กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียมแท้)
- มีขายตามท้องตลาด ราคาถูก
- เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปทุกวัน แบบครอบครัว
- ระยะ 2,000-3,000 กม. หรือประมาณ 3-6 เดือน
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic)
- มีการผสมสารเคมีลงไป
- ส่วนมากนิยมใช้กัน
- เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานหนัก เช่นการขับขี่ในระยะไกล้
- ระยะ 3,000-4,000 กม. หรือประมาณ 6-9 เดือน
น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ (Fully Synthetic)
- น้ำมันเครื่องที่ใช้สารเคมี 100%
- มีการวิจัย และขั้นตอนการผลิตนั้นพิถีพิถันมาก
- ประสิทธิภาพสูง พร้อมกับราคาที่สูงตามด้วย
- เหมาะกับผู้ขับขี่ที่ใช้งานหนักและต้องการดูแลเครื่องยนต์ให้รถเป็นพิเศษ
- ระยะ 4,000-6,000 กม. หรือโดยประมาณ 1 ปี
เหตุใดเราต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

- เพื่อลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
- ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เป็นสารหล่อลื่นให้กับเครื่องยนต์ ให้เครื่องยนต์ไม่ติดขัด
แล้วเราควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตอนไหน

- เปลี่ยนถ่ายตามระยะเวลาของการใช้น้ำมันเครื่องเพราะน้ำมันเครื่องดูดซับความชื้นได้ จึงทำให้ประสิทธิภาพลดลง
- เปลี่ยนถ่ายตามระยะทางเมื่อครบกำหนด
- เปลี่ยนถ่ายตามสภาพการใช้งานของรถ เพราะรถที่ใช้งานอย่างหนักหน่วงที่มีความร้อนสูงจะทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพได้
เบอร์น้ำมันเครื่อง(SAE) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

- น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยว  มีค่าความหนืดเพียงค่าเดียว เช่น SAE50 หรือ SAE10w
- น้ำมันเครื่องเกรดรวม มีค่าความหนืด 2 ค่า เช่น SAE10w50
ตัว W หมายถึง ค่าความหนืดเกรดฤดูหนาว โดยตัวเลขข้างหน้านั้นบอก การทนสภาพอากาศหนาวได้ดีหากตัวเลขข้างหน้ายิ่งน้อย

ตัวเลขความหนืด หากตัวเลขยิ่งเยอะ ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องยิ่งมาก

ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้นมีผลต่อระบบเครื่องยนต์ 

คุณภาพในการแบ่งเกรดน้ำมันเครื่อง ส่วนมากใช้ API

สามารถแบ่งประเภทเป็นเบนซินกับดีเซล

- ตัวอักษร C (Commercial Service) น้ำมันเครื่องสำหรับดีเซล เช่น API CF
- ตัวอักษร S (Station Service) น้ำมันเครื่องสำหรับเบนซิน เช่น API SM 
และตัวอักษรที่ตามหลัง S หรือ C นั้นเป็นการวัดเกรดของน้ำมันเครื่อง ยิ่งตัวอักษรห่างมากเท่าไรนั้น หมายถึงคุณภาพเกรดสูงขึ้น

หากมีอักษรทั้ง S และ C นั้นสามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล เช่น API SL/CF

การเลือกน้ำมันเครื่อง

- เลือกเบอร์ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์
- ประเภทของน้ำมันเครื่อง
- การใช้ปริมาณของรถ ใช้มาก/ใช้น้อย
- ส่วนมากนิยมใช้เกรดรวม เพราะสามารถใช้ได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนหรือหนาว 

บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง สามารถมาได้ที่ Motofiix เลย

น้ำมันเครื่อง Amsoil Motul Mobil PTT ฯลฯ

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องดี เปลี่ยนที่ Motofiix

สามารถติดตาม ข่าวสาร เทรนด์ และบทความอื่นๆ ได้ที่ เว็บไซต์ Motofiix Thailand