ผ้าเบรคถูกจัดเป็นอะไหล่สิ้นเปลื้องที่จะใช้หมดไปเรื่อยๆ ตามการใช้งาน ซึ่งมันไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนในเรื่องของระยะทางที่ใช้งาน แต่ก็สามารถคาดการณ์เฉลี่ยได้ว่า เมื่อใช้งานไปแล้วกี่กิโลเมตร คุณควรเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่เพียงเท่านั้น โดยผ้าเบรคก็อาจหมดก่อนการคาดการณ์ได้อีกด้วย เรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวข้องกับรูปแบบการขับขี่

เนื่องจากขับขี่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งนี้เองทำให้อายุของผ้าเบรคที่จะหมดเลยไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงไม่มีสูตรตายตัวใดๆ การเปลี่ยนผ้าเบรค นอกจากการคาดการณ์ระยะทางที่ใช้งานไปแล้ว ตลอดจนมีอาการผ้าเบรคหมดเป็นตัวฟ้อง

ผ้าเบรคควรเปลี่ยนเมื่อไร ?

1. คาดการณ์จากระยะทางที่ใช้งานไป (ผ้าเบรคควรเปลี่ยนเมื่อไร)

อาจดูเป็นเรื่องที่ดูวุ่นวายอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไหร่ โดยการคาดการณ์จากระยะทางที่ใช้งานไปก็ให้จำเป็นตัวเลขง่ายๆ เอา ตัวอย่างเช่น 5,000 กม./ 10,000 กม./ 15,000 กม. อะไรแบบนี้เป็นต้น

เมื่อถึงระยะทางที่กำหนดไว้แล้ว ก็ยังมีทางเลือกให้เพิ่มเติมอีก 2 ทาง ได้แก่ ตรวจดูเนื้อผ้าเบรคว่ายังเหลือให้ใช้งานต่อได้อีกนานไหม กับการเลือกที่จะเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ไปเลย โดยไม่ต้องสนใจว่าของเดิมเหลือเยอะหรือน้อยแต่อย่างใด

คาดการณ์จากระยะทางที่ใช้งานไป วิธีการนี้เป็นอะไรที่เรียบง่ายที่สุดก็ว่าได้ เพราะคุณไม่ต้องไปสังเกตอาการใดๆ ก็ว่าได้ ใช้งานไปให้ถึงระยะทางที่กำหนดและก็จัดการเปลี่ยนใหม่เป็นอันจบ

2. เบรคไม่เหมือนเดิม (ผ้าเบรคควรเปลี่ยนเมื่อไร)

ถ้าคุณมาถึงในจุดนี้แล้วล่ะก็ ถือว่าใช้งานผ้าเบรคได้อย่างคุ้มค่าที่สุดแล้ว โดยสัญญาณที่ง่ายที่สุดเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ผ้าเบรคหมดก็คือ “ระยะเบรคไม่เหมือนเดิม” ตลอดจนเบรคแล้วมีเสียงหอนขึ้นมา เนื่องจากไม่เหลือเนื้อผ้าเบรคให้จับจานดิสก์นั้นเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณบอกเหตุว่าผ้าเบรคของคุณกำลังจะหมดลงหรือหมดแล้วก็ได้

ทั้งนี้ผ้าเบรคก็สามารถสังเกตได้อย่างไม่ยากเย็น มีคลิปวิดีโอใน Youtube มากมายที่สอนการดูผ้าเบรค แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ไปให้ร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ตรวจเช็กดูก็ได้ ซึ่งเรื่องเบรคเป็นที่อะไรไม่ควรมองข้ามแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนนนั้นเอง