ท่านเคยสังเกตไหมว่าทุกๆ ปีจะมีมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัวมาใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 รุ่นทุกยี่ห้อ แต่ในตลาดมอเตอร์ไซค์จะมีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นที่เรา เคยเห็นตั้งแต่เป็นเด็กๆ ที่ พ่อแม่ เราเคยขี่ใช้งาน จนมาถึงยุคปัจจุบันมานี้ก็ยังคงเห็นรถรุ่นนี้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ และรุ่นใหม่ๆ มาเรื่อยๆ เรียกได้ว่ายืนยงในตลาดมอเตอร์ไซค์มานานเกิดกว่ารอบหนึ่งของชีวิตเรากันเลย มีรุ่นไหนกันบ้างที่เราคัดมาให้ดูกันวันนี้ แล้วมีรุ่นไหนที่คุณคิดว่าใช่อีก แนะนำมาได้เลย

Honda Wave

Honda Wave รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ซึ่งถ้าหากรวมระยะเวลาตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน ก็เป็นเวลากว่า 20 กว่าปีแล้ว ด้วยพื้นฐานของการเป็นรถมอเตอร์ไซค์ประเภทครอบครัว ที่ขับขี่ง่ายและเหมาะกับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นชื่อว่าประหยัดน้ำมันสุด ๆ ทำให้ Honda Wave ได้มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในหลาย ๆ ครัวเรือนในประเทศไทย และทำให้ Honda Wave ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 – 2561 สูงสุดอันดับหนึ่งในประเทศไทย ถึง 14.5 ล้านคัน

ทำไม Honda Wave กลายเป็นตัวเลือกเมื่อคิดจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ฃ

ดีไซน์

Honda Wave ทุกรุ่นได้รับการออกแบบให้โดนใจคนไทย สวยงามทันสมัย ดูลงตัวโดยเฉพาะ Honda Wave 110i ที่มีไฟหน้ารูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากในด้านความสวยงาม ทำให้ Honda Wave กลายเป็นผู้นำเทรนด์ในเรื่องดีไซน์ของรถครอบครัวยุคใหม่ ล่าสุด Honda Wave รุ่นใหม่ๆ ยังนำระบบไฟ LED มาใช้กับไฟหน้า ยิ่งเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกระดับ ในขณะที่ตัวรถก็มีรูปทรงและเส้นสายที่ดูพลิ้วไหวทันสมัย ทั้งยังมีจุดเด่นที่บังลมแบบเลเยอร์ดูมีมิติ และการใช้วัสดุประกอบที่ทนทาน

เครื่องยนต์

Honda Wave วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2540 ในชื่อ Honda Wave100 ก่อนที่ในปี 2542 จะอัปเกรดขึ้นมาเป็น Honda Wave110 และเปิดตัวรุ่นที่มีเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี ภายใต้ชื่อ Honda Wave 125 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ใช้ ต่อมาในปี 2546 ฮอนด้าได้นำระบบหัวฉีด PGM-FI มาติดตั้งกับ Honda Wave เป็นรุ่นแรกในประเทศไทย ซึ่งระบบหัวฉีดนี้สามารถทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 4 จังหวะของ Honda ได้อย่างลงตัว ให้แรงต้นดี ออกตัวง่าย หลังจากนั้นก็ยังได้รับการพัฒนาให้มีความล้ำสมัยอยู่เสมอจนถึงทุกวันนี้ โดย Honda Wave 110i รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน 

ประหยัดน้ำมัน

Honda Wave  110 มีอัตราประหยัดน้ำมัน 59.9 กม./ลิตร ในขณะที่ Honda Wave 125i มีอัตราประหยัด 69 กม./ลิตร จากการวัดค่าตามมาตรฐานยูโร (EURO) ซึ่งใกล้เคียงกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

ทน

อีกหนึ่งเบื้องหลังที่ทำให้ Honda Wave ได้รับความนิยมคือตัวรถที่มีความทนทานในทุกส่วนตั้งแต่เครื่องยนต์ ระบบหัวฉีด ตัวเฟรมรถ และส่วนประกอบต่างๆ ที่มีคุณภาพไว้วางใจได้ อีกทั้งยังบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมได้ง่าย เพราะเป็นรถที่ร้านมอเตอร์ไซค์ทุกร้านมีอะไหล่สึกหรอ และเครื่องมือพร้อมให้บริการรอไว้อยู่แล้ว

ใช้งานหลากหลาย

Honda Wave ถูกสร้างให้เป็นรถที่ตอบโจทย์ผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเดินทางไปเรียน ไปทำงาน หรือขี่เพื่อความสนุกสนาน จนกลายเป็นรถที่คนทั้งประเทศให้ความไว้วางใจให้เป็นรถครอบครัวที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการเพราะขับขี่ง่าย ดูทันสมัย สมรรถนะดี ทั้งยังประหยัดน้ำมันมาก เรียกได้ว่าออลอินวันเลยทีเดียว

ราคาและการเข้าตลาดมือ 2 

Honda Wave มีราคาที่จับต้องได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับคุณสมบัติการใช้งาน อีกทั้งยังเป็นที่นิยมมากในตลาดรถมือ  2 ทำให้ราคาไม่ตกลงเลย ขึ้นชื่อว่า Honda Wave ไม่ว่าจะเป็น Wave110i หรือ Wave125i ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยมของตลาด และมักจะเป็นตัวเลือกแรกของคนที่มองหารถมอเตอร์ไซค์มือสองไว้ใช้งานเสมอ เป็นรถที่ผู้ใช้มั่นใจได้ตลอดเวลา เพราะเป็นรุ่นที่มีความต้องการจากตลาด

Yamaha Fino

Yamaha Fino เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2549 จุดสำคัญที่ทำให้กระแส Fino ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เกิดขึ้นมาจากความโดดเด่นด้านดีไซน์ ในสไตล์ Retro/Classic ผสมกับ Modern หรือเรียกว่าสไตล์ Modern Classic ทำให้ Fino แตกต่างจากดีไซน์มอเตอร์ไซค์ที่มีอยู่ในตลาดบ้านเรา ณ เวลานั้น บวกกับการทำตลาดที่แตกต่างของ Fino โดยเน้นสร้าง Brand Experience มีพรีเซนเตอร์ดังๆ มาเป็นแรงจูงใจให้เกิดการซื้อ

 รถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Fino เป็นรุ่นที่ครั้งหนึ่งครองถนนเมืองไทยอยู่พักใหญ่ ๆ เลย หันไปทางไหนก็จะเห็นแต่คนขับฟีโน่เต็มบ้านเต็มเมือง และ Yamaha Fino 125 STANDARD MY 2019 คือรุ่นที่ทางยามาฮ่าได้ทำการออกแบบให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ก็ยังความเก๋าแบบฉบับ Fino ด้วยไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ และหน้าปัดทรงกระบอก ไฟเลี้ยวออกแบบให้เรียวและยาวขึ้น เพิ่มลูกเล่นที่เบาะด้วยเส้นตัดสวยงาม มาพร้อมเครื่องยนต์ 125 ซีซี  4 จังหวะ 1 สูบ เกียร์อัตโนมัติ มีจุดเด่นที่เครื่องยนต์เป็นแบบ FFV เพิ่มทางเลือกในการใช้พลังงานให้มากขึ้น ทั้งดีไซน์ที่สวยงามแบบบฉบับ Fino แต่เพิ่มความประหยัดพลังงาน

และตัวปัจจุบันที่เพิ่มหลากหลายเทคโนโลยี ที่จะเข้ามาเติมเต็มให้ Yamaha Fino ยังคงเป็นที่นิยมคู่คนไทยให้ยาวนานมากกว่านี้

• ขับขี่สบายด้วยเครื่องยนต์ BLUE CORE 125 ซีซี ระบบหัวฉีดกำลังแรงแต่ประหยัดน้ำมัน
• ไฟหน้า FULL LED สไตล์โปรเจคเตอร์ และไฟหรี่ Diamond Cut Lens
• เรือนไมล์แยกส่วนพร้อมไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด
• กุญแจรีโมท ANSWER BACK SYSTEM เปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ
• เบาะใหญ่นั่งสบาย ที่เก็บของขนาดใหญ่จุใจถึง 7.2 ลิตร

Kawasaki Ninja

ในปี 1984  Kawasaki GPZ900R หรือที่รู้จักกันในนาม Kawasaki ZX900A และ Kawasaki Ninja 900 ได้ถือกำเนิดขึ้นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย โฉบเฉี่ยวและเป็นบรรพบุรุษของจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ตในปัจจุบัน ด้วยเวลาออกแบบผลิตและปรับปรุงนานกว่า 6 ปี จนได้เป็นจักรยานยนต์เครื่อง 4 สูบ 16 วาล์ว เครื่องแรกของโลก

โดดเด่นในสนาม Grand Prix และ Moto GP

ด้วยเครื่องยนต์และรูปร่างที่สวยงามทำให้ในที่สุด Kawasaki ก็พานักแข่งรถจักยานยนต์ที่ชื่อ  Dave Simmonds ชนะการแข่งขัน World Championship ประเภท 125 CC ในปี 1969 และคว้ารางวัล Grand Prix ถึง 4 ครั้งจากประเภท 250 CC 300 CC ระหว่างช่วงปี 1978 – 1982

Kawasaki นั้นมีประวัติความเป็นมายาวนาน ถือเป็นเจ้าแห่งอุตสาหกรรมหนักและวงการยานยนต์อย่างแท้จริง อาจกล่าวได้ว่าสาวกยักษ์เขียวนั้นมั่นใจในสมรรถนะ ประสิทธิภาพและบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ จึงทำให้ศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Peera Motosports ก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้งก่อนและหลังซื้อสินค้าไปแล้ว ด้วยบริการด้านจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ครบวงจรพร้อมการบริการด้วยใจอย่างเต็มความสามารถ

คุณสมบัติที่ยืนยงของเจ้ายักษ์เขียว Ninja ที่ออกมากว่า 19 รุ่น

รูปลักษณ์สไตล์นินจามีความโดดเด่นเฉียบคมแทบทุกรุ่น

Ninja มาพร้อมรูปลักษณ์สไตล์นินจาที่มีความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ล้ำยุค แฟริ่งที่ถูกออกแบบมาให้มีเส้นสายดุดันให้อารมณ์ให้นึกถึงรถสปอร์ตพิกัดใหญ่ เสริมให้ดูดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยดีไซน์การเก็บงานที่เหนือกว่าคู่แข่ง และยังพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง มีการออกแบบให้อากาศผ่านไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตามหลัก Aerodynamic การออกแบบให้รถมีรูปทรงเป็นสปอร์ตสามารถขับขี่ได้ทั้งบนท้องถนนทั่วไปและในสนามแข่ง ท่อไอเสียมีการออกแบบให้หลบอยู่ใต้ตัวรถ

สมรรถนะและศักยภาพด้านการควบคุมสูง

เครื่องยนต์ใหม่แบบ All-new Ninja แต่ละรุ่น ให้สมดุลที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะและศักยภาพด้านการควบคุม มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นและตอบสนองได้เต็มกำลังกว่าในทุกรอบเครื่องยนต์เมื่อเทียบโมเดลเก่า ตอบรับการเรียกอัตราเร่งได้เต็มอารมณ์ขึ้นแต่คงไว้ซึ่งคุณสมบัติอย่างการส่งกำลังที่นิ่มนวลไร้การสะดุด การตอบสนองที่คาดเดาได้เพื่อให้คาแรกเตอร์การส่งกำลังที่ง่าย-ต่อการ-ควบคุม การออกแบบที่มีประสิทธิภาพทำให้ตัวเครื่องมีความกะทัดรัด,น้ำหนักเบา

โครงแบบเฟรมถักทั้งคันและระบบกันสะเทือนและระบบเบรคที่พัฒนาอย่างล้ำหน้า

Ninja รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ใช้เฟรมถักที่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด All-New  Trellis ให้รับน้ำหนักได้อย่างดี และน้ำหนักเบา สามารถควบคุมได้อย่างคล่องแคล่ว ตามสไตล์ซุปเปอร์สปอร์ต นอกจากนี้ระบบกันสะเทือนหน้าที่ติดตั้งมา เป็นแบบหัวกลับขนาดแกน ø37 มม. SFF-BP ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างระบบแบบ Separate Function แยกการทำงานและ Big piston (BPF) ลูกสูบใหญ่จากแบรนด์ Showa ซึ่งให้การซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีทั้งในสนามแข่งและใช้บนท้องถนน ส่วนด้านหลังเป็นแบบโช้คเดี่ยวมีการจัดวางเป็นแนวนอนตามสไลต์รถสปอร์ต

– ยกระดับความสบายในการขับขี่ 

- เสริมเสถียรภาพด้านการเบรก

- จับสัมผัสการทำงานของล้อหน้าได้แม่นยำ

- ปรับ Compression และ Rebound แยกอิสระรองรับการขับขี่ได้ทุกรูปแบบ 

 Kawasaki เป็นผู้เริ่มต้นใช้คือ แอสสิสท์ &สลิปเปอร์คลัทช์ ช่วยให้การขับขี่มีความนิ่มนวลมากยิ่งขึ้น พร้อมอัตราทดที่เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการเรียกอัตราเร่งในจังหวะออกจากโค้งและการลดเกียร์ ลดแรงกระชากทำให้ขับขี่ได้อย่างสบาย

เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง

ZX-10RR 2021 เทคโนโลยีความปลอดภัย

KCMF จะทำการวัดขอบข่ายการตอบสนองของทั้งเครื่องยนต์และแซสซีตลอดทั้งโค้ง - ตั้งแต่จุดเข้า,ผ่านจุด Apex, ไปยังจุดออกโค้ง – ควบคุมแรงดันเบรกและกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัวที่ต่อเนื่องไร้การสะดุดตั้งแต่จังหวะเร่งความเร็วไปจนถึงจังหวะใช้เบรกและกลับมาเดินคันเร่งอีกครั้ง และช่วยผู้ขับขี่ให้สามารถรักษาไลน์การขับขี่ได้อย่างแม่นยำตลอดทั้งโค้ง

IMU การนำระบบตรวจวัดการเคลื่อนไหวภายในที่มีขนาดกะทัดรัดจาก Bosch มาใช้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่ระบบ KTRC และ KIBS ที่ศักยภาพสูงอยู่แล้วให้แม่นยำขึ้นไปอีกระดับ

S-KTRC ระบบ Traction control ประเภทไฮบริด คาดเดาล่วงหน้า/ตอบสนองตามข้อมูล จากคาวาซากิ ช่วยให้ผู้ขับขี่ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยอัตราเร่งสูงสุดในสนามแข่งขัน

KLCM (โหมดควบคุมการออกตัวจากคาวาซากิ) ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งความเร็วให้มีความเหมาะสมสูงสุดตั้งแต่ตอนที่รถหยุดอยู่กับที่ ระบบ KLCM ใช้อิเล็กทรอนิกส์ในการควบคุมกำลังของเครื่องยนต์เพื่อป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังและลดการลอยของล้อหน้าให้น้อยที่สุดตอนออกตัว

KIBS ระบบจัดการเบรกความแม่นยำสูงเกรดซูเปอร์สปอร์ตจากคาวาซากิ ใช้การควบคุมความแม่นยำสูงในการปรับแรงดันเบรกระหว่างการขับขี่แบบสปอร์ต

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก 

Honda Thailand

https://www.yamaha-motor.co.th/

https://www.kawasaki.co.th

สามารถติดตาม ข่าวสาร เทรนด์ และบทความอื่นๆ ได้ที่ เว็บไซต์ MOTOFIIX Thailand