เรื่องของอุปกรณ์ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้แม้แต่น้อย โดยเฉพาะหมวกกันน็อคที่เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บจากการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วเกิดอุบัติเหตุลงได้พอสมควร ซึ่งในไทยก็มีข้อบังคับในเรื่องมาตรฐานนี้เช่นกัน และมีชื่อว่า มอก.

หากหมวกกันน็อคแบรนด์ไหนก็ตามบนโลกต้องการมาขายในไทย ก็ต้องมีการทดสอบตามมาตรฐาน มอก. เสียก่อน ถึงจะสามารถขายได้นั้นเอง เช่นเดียวกับทวีปยุโรปที่ได้มีการปรับมาตรฐานหมวกกันน็อคไป โดยมาตรฐานใหม่มีชื่อว่า ECE 22.06

มาตรฐานหมวกกันน็อค ECE 22.06 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า United Nations Economics Commission for Europe โดยเป็นมาตรฐานที่บังคับใช้ในยุโรป ตลอดจนอีกหลายๆ ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในยุโรปอีกด้วย

สำหรับมาตรฐานหมวกกันน็อค ECE 22.06 ได้รับการพัฒนาในเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่ามาตรฐานเดิม ไม่ว่าจะเป็น

- การกระแทกในแต่ละช่วงความเร็ว

- มุมการกระแทกต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ทั้งหมดที่พัฒนาขึ้นมา ก็เพื่อทดสอบผลกระทบในจุดต่างๆ ของหมวกกันน็อคว่าเป็นอย่างไร ในความเร็วสูงต่ำที่แตกต่างกันออกไป ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ใส่หมวกกันน็อคมากแค่ไหน

นอกจากนี้มาตรฐานหมวกกันน็อค ECE 22.06 ได้มีการทดสอบการกระแทกในมุม 45 องศา อีกด้วย โดยมีเหตุผลที่ว่า การกระแทกในมุมองศาต่างๆ จะส่งความบาดเจ็บที่รุนแรงกว่าการกระแทกแบบโดยตรงนั้นเอง

สำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่กับหมวก ไม่ว่าจะเป็นชิวล์หน้า แว่นตากันแดด ต้องให้แสงผ่านได้ถึง 35% จากเดิมกำหนดไว้ที่ 50% ตัวบลูทูธ ตลอดจนหมวกกันน็อคต้องสามารถเปิดคางหรือถอดคางออกได้ 

สุดท้ายนี้มาตรฐานหมวกกันน็อค ECE 22.06 จะถูกบังคับใช้ในยุโรปอย่างเป็นทางการในปี 2024 นับตั้งแต่เดือนมกราคม เป็นต้นไป ซึ่งดูเหมือนว่าทางแบรนด์หมวกกันน็อคต่างๆ ยังมีเวลาพัฒนาอยู่ประมาณ 2 ปีเลยทีเดียว

ที่มา gpone.com