น้ำมันเครื่องบิ๊กไบค์ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับเครื่องยนต์ เพราะ น้ำมันเครื่องบิ๊กไบค์ จะช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ของรถคู่ใจของคุณให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามน้ำมันเครื่องก็มีอายุการใช้งานหลังจากการบำรุงรักษาเครื่องยนต์มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันโปรดของคุณด้วย ลำดับขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณได้ใช้น้ำมันเครื่องที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับรถของคุณมากที่สุด

น้ำมันเครื่องบิ๊กไบค์ เลือกอย่างไรให้ได้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพ
สำหรับน้ำมันเครื่องก็ถือว่าเป็นหนึ่งส่วนที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพราะมีผลต่อการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์อย่างมาก ดังนั้นหากน้ำมันเครื่องแห้งหรือขาดการดูแลรักษาอาจจะทำให้เครื่องยนต์ เกิดการชำรุดมากถึงมากที่สุดได้ เราจึงต้องรู้จักกับวิธีการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องบิ๊กไบค์ ว่าควรเลือกซื้ออย่างไรและมีวิธีการอย่างไรบ้างในการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องที่มีประสิทธิภาพให้เหมาะสมกับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คู่ใจของคุณ 

การเลือกเบอร์ความหนืด 
เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่คุณควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อน้ำมันเครื่องมาใส่ในเครื่องยนต์ของคุณเพราะเครื่องยนต์แต่ละชนิดจะใช้ความหนืดของน้ำมันเครื่องที่แตกต่างกันออกไป ความหนืดของน้ำมันเครื่อง คือ ระดับความข้นของน้ำมันเครื่อง เรียกง่ายๆ ว่า หากน้ำมันเครื่องข้นหรือหนืดเกินไป จะไม่สามารถไหลเวียนและหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างดี และหากมีความข้นหรือหนืดน้อยไป นั่นคือ น้ำมันเครื่องเหลวมากไปนั่นเอง จะไม่สามารถให้การปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้

สามารถดูได้จากตัวอักษร “W” โดยจะมีตัวเลขที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
- ตัวเลขที่อยู่หน้า “W” คือค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในสภาวะอุณหภูมิที่ต่ำหรือขณะที่เครื่องยนต์เย็น ยิ่งตัวเลขน้อยจะแสดงถึงค่าความหนืดที่ต่ำ ทำให้สามารถหล่อลื่นเครื่องยนต์ขณะเย็นได้ดี
- ตัวเลขหลัง “W” คือค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในสภาวะอุณหภูมิที่สูงหรือขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ยิ่งตัวเลขสูงจะแสดงถึงค่าความหนืดที่สูง ทำให้สามารถหล่อลื่น และปกป้องเครื่องยนต์ขณะทำงานได้ดี เช่น 30, 40, 50, 60 โดยจะวัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
ทุกท่านสามารถเช็คข้อมูลความหนืดของน้ำมันเครื่องที่รถของคุณต้องใช้ได้จากคู่มือรถหรือสอบถามศูนย์บริการ และผู้ชำนาญการว่ารถของคุณนั้นควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดเท่าไหร่ก่อนเลือกซื้อ

วิธีการเลือกประเภทของน้ำมัน 
สำหรับการเลือกประเภทของน้ำมันเครื่องนั้นแบ่งออกวิธีของการเลือกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 
- การเลือกน้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์แท้ 100% (Fully Synthenic, Synthenic 100%)
- การเลือกน้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ (Synthenic Blend, Semi-Synthenic, Part Synthenic)
ซึ่งความแตกต่างระหว่างน้ำมัน 2 ประเภทนี้นั้นคือราคาของน้ำมันเครื่องนั้นเอง และนอกจากนี้ยังมีน้ำมันที่ไม่ใช่น้ำมันสังเคราะห์ที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ซึ่งใครหลายคนอาจเข้าใจผิดได้ เช่น น้ำมันเครื่องแบบ Synthenic Performance ซึ่งเป็นชนิดของน้ำมันที่มีสมรรถนะแบบเดียวกันกับน้ำมันสังเคราะห์ ซึ่งการเลือกซื้อน้ำมันทั้งสองประเภทนี้นั้นอาจจะขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละท่าน

การดูค่ามาตรฐาน JASO และ API ของน้ำมันเครื่อง 
ใช้เพื่อแบ่งประเภทของการใช้งานของเครื่องยนต์ในแต่ละระบบของรถคันโปรดของคุณ ที่มีความแตกต่างกันได้แก่
MB = เครื่องยนค์ระบบคลัทช์แห้ง
MA = เครื่องยนค์คลัทช์เปียก
MA2 = เครื่องยนค์น้ำมันรุ่นใหม่ที่ใช้กับคลัทช์เปียกแบบมีระบบกรองไอเสีย
API = ณ ค่าปัจจุบันค่า API สูงสุดคือ API SN รองลงมาคือ SM, SL, SJ และ SG ตามลำดับ
ควรเลือก API SN เพราะเป็นค่ามาตรฐานสูงสุด
ดังนั้น คุณคงทราบอยู่แล้ว สำหรับเครื่องยนต์ของรถคันโปรดของคุณสำหรับระบบคลัทช์แบบต่างๆ ก่อนเลือกซื้อน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมสำหรับรถคันโปรดของคุณ
 

การเช็คที่มาของการผลิต 
นับว่าเป้นนึ่งในเรื่องสำคัญอย่างมากเลยก็ว่าได้สำหรับแหล่งผลิตของน้ำมันเครื่องยนต์ เพราะถ้าคุณทำการตรวจเช็คทุกครั้งอาจทำให้คุณนั้นปลอดภัยจากการใช้น้ำมันเครื่องยนต์ปลอมได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนเลือกซื้อน้ไมันเครื่องทุกครั้งเพื่อความสบายใจคุณควนตรวจเช็คแหล่งผลิตน้ำมันเครื่องทุกครั้ง
เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ในระดับสากล (Global Brand) 
สำหรับประเภทยี่ห้อของน้ำมันเครื่องสิ่งสำคัญอีกอย่างคือยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะต้องเป็นยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลในระดับสากล (Global Brand) จะได้มันใจได้ว่าน้ำมันเครื่องที่คุณเลือกเป็นน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสามารถเพิ่มสมถรรภาพให้กับรถคุณได้อย่างแน่นอน

การจับความรู้สึกยามขับขี่ 
เพราะการจับความรู้สึกยามขับขี่หลังจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้นจะทำให้คุณได้ทราบว่าหลังจากที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปแล้วนั้น รถของคุณมีอัตราเร่งดีขึ้นจากเดิมหรือไม่ มีควันออกจากท่อไอเสียมากเกินไปหรือไม่ โดยสามารถตรวจเช็คได้ ดังนี้
- เช็คความลื่นของเครื่องยนต์
- เช็คความนุ่ม และเบาเวลาเข้าเกียร์
- เช็คอายุและระยะทางของการใช้งานน้ำมันเครื่อง
- เช็คสมรรถนะน้ำมันเครื่องหลังการใช้งานว่าคงอยู่หรือคงที่มากน้อยแค่ไหน

หากรู้สึกว่าขั้นตอนต่างๆ มันยากเกินไปสำหรับเรา แนะนำให้เข้าไปที่ร้านหรือศูนย์มอเตอร์ไซค์ที่เรามั่นใจ แล้วปรึกษาช่างประจำตัวของเรา เลือกช่างที่มีความรู้จริง เพื่อช่วยเลือกน้ำมันเครื่องให้ตรงกับรุ่นรถของเรา และการใช้งานของเรามากที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก  
https://www.bigbikeinfo.com/