Kawasaki Z650RS เปิดโฉมมาเขย่าตลาดมิดเดิลเวทกับ สมรรถนะที่เต็มสูบ ใครที่ยังไม่ตัดสินใจกำเงินเอาไว้แล้วมาดูขีดสุดของพลังรุ่นนี้ก่อน Z650RS มีเค้าโครงมาจากโมเดล Kawasaki Z1 ย้อนไปในยุค 70’s เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงท้ายของรถ ถังน้ำมันทรงโค้งมนเพ้นท์เส้นสายเล็กๆเอกลักษณ์เฉพาะของ Kawasaki นอกจากนี้ยังเพิ่มความคลาสสิกเข้าไปอีกด้วยชุดล้อแม็ก “คล้ายล้อซี่” แต่จริงๆ แล้วคือวัสดุอลูมิเนียม..ไม่หนัก ประหยัดงบ ได้ลุคเรียบหรู แถมดูแลรักษาง่าย

เครื่องยนต์คลาส 650 ซีซี
เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือนคือ เครื่องยนต์ที่ “เข้าถึงง่าย” ของ Kawasaki Z650 กับตัวเลข 649 ซีซี 2 สูบเรียง 67 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ พร้อมแรงบิด 63.7 นิวตันเมตร ที่ 6,700 รอบ คงคาแรคเตอร์ขี่ง่าย โดยเฉพาะช่วงรอบกลางมีพลังอย่างเห็นได้ชัด ขี่เรื่อยๆ ได้เป็นอย่างดี ดูเข้ากับหน้าตาคลาสสิก เอาไว้ขี่หล่อๆ พร้อมเสียงเครื่องยนต์ 2 สูบ ตัวรถยังมีสลิปเปอร์คลัทช์ให้ด้วย

เฟรมถัก “สวยคลาสสิค” 
ถือเป็นจุดเด่นอยู่แล้ว สำหรับเฟรมถักในคลาสมิดเดิลเวทของคาวาซากิ ไม่ว่าจะเป็น Ninja 650, Z650 หรือ Z650RS ต่างใช้เฟรมตัวเดียวกัน.. ดีหน่อยที่คาวาซากิยังไม่ได้ทาสีเขียวปรี๊ดมาให้เหมือนในรุ่น Z650 นอกจากเรื่องของความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของรูปแบบเฟรมนี้แล้ว ยังช่วยเสริมลุคคลาสสิก ควบสไตล์เน็กเก็ตดุดันเข้าไปให้ Z650 อีกระดับด้วย

ช่วงล่าง-เบรค
ระบบกันสะเทือนหน้าติดตั้งแบบเทเลสโคปิคขนาดแกน 41 มม. พร้อมโช๊คอัพหลัง Horizontal Back-Link.. ถือว่าเป็นระบบกันสะเทือนที่พร้อมมอบความสุขยามขับขี่เรื่อยๆ ชิลล์ๆ ในวันหยุด มันใจได้ในทุกการเข้าโค้ง
ระบบเบรกคล้ายๆ กับ Z650  มีคาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ ดิสก์เบรกคู่ ด้านหน้าขนาด 300 มม. ด้านหลังดิสก์เดี่ยว 220 มม. เปลี่ยนจานดิสก์แบบหยักๆ ในสไตล์สปอร์ตมาเป็นจานกลมๆ เข้าลุคคลาสสิก พร้อมระบบ ABS ที่ติดรถมาเป็นมาตรฐานโมเดลที่วางจำหน่ายในประเทศไทย

หน้าปัด อนาล็อก-ดิจิทัล
ไฟหน้ากลมหน้าปัดก็ควรจะต้องทรงกลมด้วยสิถึงจะเข้ากัน กับหน้าปัดเรือนไมล์สไตล์ไฮบริด มีเข็มวัดรอบ และวัดความเร็วมองเห็นชัดเจน พร้อมแสดงผลข้อมูลอื่นๆ ในแบบดิจิทัล หน้าจอเล็กๆ ตรงกลาง เลขบอกเกียร์ ปริมาตรน้ำมัน ระยะทาง ฯลฯ
 

มิติรถ “ควบคุมง่าย”
เน้นเจาะตลาดนักบิดมือใหม่ รวมถึงนักบิดมากประสบการณ์แต่ต้องการรถที่ขี่ง่ายๆ ควบคุมง่าย สบายใจเมื่อนำรถไปออกทริป ..Kawasaki Z650RS เป็นรถที่ควบคุมง่ายด้วยความสูงเบาะเพียง 820 มม. ผนวกกับความผอมเพรียวพร้อมแนบชิดช่วงเข่าด้านข้าง ทำให้การขับขี่ ควบคุมในสถานการณ์ต่างๆ สามารถก้าวขาลงมาวางที่พื้นได้ง่าย ช่วงระหว่างพักเท้ากับเบาะให้ท่านั่งที่ผ่อนคลาย สอดคล้องกับแฮนเดิลบาร์ทรงกว้างไม่กดดันช่วงไหล่ หรือต้องโน้มตัวมาด้านหน้า เหมาะกับการขับขี่สบายๆ 

ราคา
เริ่มต้นที่ 7,549 ปอนด์ (ประมาณ 345,XXX บาท) ในสี Metallic Spark Black บวกเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยที่ 7,699 ปอนด์ (ประมาณ 352,XXX บาท) ในสี Candy Emerald Green, Metallic Moondust Grey / Ebony ..ทั้งนี้เป็นราคาที่คำนวณคร่าวๆเท่านั้น มาลุ้นกันอีกทีว่า คาวาซากิประเทศไทยจะนำมาขายและเปิดตัวที่ราคาเท่าไร

ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพจาก  
https://www.motocrossmag.co.th/
https://www.kawasaki.com/en-us