แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ก้อนเล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเก็บ และจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบสตาร์ท ระบบจุดระเบิด รวมไปถึงระบบไฟสัญญาณด้วย ซึ่งไม่ว่าคุณจะใช้แบตเตอรี่แบบไหนก็ควรใส่ใจดูแล เพื่อให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันสมควร แล้วสามารถใช้งานได้ตามระยะเวลาที่กำหนด หรืออาจจะนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย 

ชนิดของแบตเตอรี่มีกี่แบบ
- แบตเตอรี่แบบธรรมดา เป็นแบตเตอรี่ที่ต้องหมั่นดูแลระดับน้ำกรดอยู่สม่ำเสมอ
- แบตเตอรี่แบบแห้ง (แบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น) เมื่อใช้งานเป็นระยะ 6 เดือน โดยที่ไม่ต้องหมั่นคอยดูแล แต่หลังจากนั้นทุกๆ 3 เดือนต้องหมั่นดูแลระดับน้ำกรดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- แบตเตอรี่แบบเจล เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องหมั่นมาดูแลรักษามากนัก เพราะเป็นแบตที่ปิดสนิท และมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าแบตแห้ง กับแบตธรรมดา

วิธีตรวจสอบสภาพภายนอกของแบตเตอรี่
- ตรวจดูขั้วแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะขั้วบวก หรือขั้วลบ ว่าหลุด หลวม หรือมีขี้ตะกอนหรือไม่ หากมีให้ใช้น้ำอุ่นล้าง และนำแปรงลวดขัดออก
- ตรวจสอบว่าแบตเตอรรี่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่
- เช็คดูระดับน้ำกลั่น (แบตเตอรรี่แบบธรรมดา)
- เช็คดูได้จากระบบสัญญาณไฟ หากไฟเริ่มอ่อน แตรเริ่มเสียงเบา แสดงว่าแบตเตอรี่มีอาการเสื่อม

การป้องกันแบตเตอรี่อ่อนหรือแบตเตอรี่เสื่อม
- นำรถไปใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการกระตุ้นแบตเตอรี่
- เลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับรถ ไม่ใช้แบตเตอรี่ที่มีแอมป์น้อยไป
- ไม่ควรดัดแปลงไดชาร์จ
- หากสำหรับบุคคลที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ ควรหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ไว้ในการชาร์จ เพื่อสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ สิ่งสำคัญที่ทำให้รถสามารถสตาร์ทติดได้ง่ายขึ้น โดยแบตเตอรี่ปกติใช้ได้นานประมาณ 2-3 ปี แต่ถ้าเราดูแลดีอาจสามารถใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเราควรหมั่นตรวจเช็คแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เช็ดทำความสะอาด ถึงแม้ว่าจะเป็นแบตเจลก็ตาม หากใครสนใจแบตเตอรี่แบบแห้ง หรือแบบเจลของ Motobatt สามารถแวะมาที่ Motofiix ก่อนได้นะ พร้อมยินดีให้บริการ หรือโทรสอบถามได้เลย

สามารถติดตาม ข่าวสาร เทรนด์ และบทความอื่นๆ ได้ที่ เว็บไซต์ Motofiix Thailand
ขอขอบคุณข้อมูล
www.autobacs.co.th
www.blog.peeramotosport.co.th