Cardo บลูทูธติดหมวกกันน็อค รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2022
9 มีนาคม 2565
visibility262
Cardo พร้อมพาคุณเปิดประสบการณ์การฟังเพลง และการสื่อสาร ในระหว่างขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ที่ไม่เป็นสองรองใครในตลาดบลูทูธติดหมวกกันน็อค ซึ่งในปี 2022 ทางบริษัทเพิ่งมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดถึง 3 รุ่น ได้แก่
- Cardo SPIRIT HD
- Cardo Freecom 2x
- Cardo Freecom 4x
ทั้งนี้สามารถสรุปได้แบบสั้นๆ ถึงความแตกต่างของ Cardo บลูทูธติดหมวกกันน็อค ทั้ง 3 รุ่นนี้ก็คือ ขนาดลำโพงที่ใช้งาน ระยะการเชื่อมต่อ จำนวนเครื่องที่สามารถเชื่อมต่อ และระบบสั่งการด้วยเสียง ในส่วนเรื่องอื่นๆ ความสามารถเหมือนกันทั้งหมด
รุ่น SPIRIT HD (Cardo บลูทูธติดหมวกกันน็อค)
ถือว่ามีราคาถูกสุดในนี้ก็ว่าได้ โดย Cardo SPIRIT HD มีราคาอยู่ที่ 4,900 บาท และมีสเปกความสามารถดังต่อไปนี้
- ขนาดลำโพง 40 มม. (ปรับเสียงแบบอัตโนมัติ) / HD Profiles Audio
- รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 2 คน
- ระบบ Bluetooth intercom
- มีหน้าจอดิจิทัล TFT
- รับคลื่น FM ได้
- ระยะทางเชื่อมต่อไกลสุดที่รองรับ 600 ม.
- กันฝน ฝุ่น และหิมะ
- มีแอปพลิเคชัน Cardo Connect ให้ใช้งาน
- ใช้งานได้ 13 ชม.
- เวลาชาร์จประมาณ 2 ชม.
- แบตเตอรี่อยู่ได้ 10 วัน
- น้ำหนัก 37 กรัม
เรื่องที่น่าพูดถึงของ Cardo SPIRIT HD คงจะเป็นเรื่องเสียงของลำโพง ที่ลองใช้งานแล้วรู้สึกว่าสมกับเงินที่จ่ายไปเกือบ 5 พันบาท ถึงแม้สเปกจะยังไม่ใช่ลำโพง JBL แต่คุณภาพเสียงที่ปล่อยออกมา จัดได้ว่าเป็นลำโพงที่ยอดเยี่ยมรุ่นหนึ่งเลย
สำหรับความเหมาะสมในการซื้อใช้งาน ด้วยการเชื่อมต่อสูงสุดรองรับไว้ที่ 2 คน และมีระยะทางเชื่อมต่อประมาณ 600 เมตร มันปฏิเสธไม่ได้ว่า Cardo SPIRIT HD เหมาะใช้งานระหว่างผู้ขับ และคนซ้อนเป็นหลักเพียงเท่านั้น หากออกทริปหลายคนคงไม่เหมาะสมที่จะใช้งาน
คำแนะนำที่ดีที่สุดในการเลือกซื้อ หากคุณสนใจบลูทูธติดหมวกกันน็อค คือต้องมาลองฟังเสียงจริงๆ ว่าคุณภาพถูกใจรึไม่ การใช้งานตอบโจทย์เรารึเปล่า เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครสามารถตอบได้ชัดเจนเท่ากับตัวคุณเอง
รุ่น Freecom 2x (Cardo บลูทูธติดหมวกกันน็อค)
สำหรับ Cardo Freecom 2x มีราคาอยู่ที่ 6,800 บาท โดยเรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่อัพเกรดความสามารถมาจากรุ่น SPIRIT HD สักเล็กน้อย โดยเนื้อๆ เน้นๆ จะเป็นลำโพง JBL และระยะทางการเชื่อมต่อที่ไกลขึ้น
สเปกข้อมูล
- ลำโพงที่ใช้เป็นของ JBL ที่ออกแบบมาเพื่อ CARDO โดยเฉพาะ ขนาดลำโพง 40 มม. (ปรับเสียงแบบอัตโนมัติ) / HD Profiles Audio
- รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 2 คน
- ระบบ Bluetooth intercom
- มีหน้าจอดิจิทัล TFT
- รับคลื่น FM ได้
- ระยะทางเชื่อมต่อไกลสุดที่รองรับ 800 ม.
- กันฝน ฝุ่น และหิมะ
- มีแอปพลิเคชัน Cardo Connect ให้ใช้งาน
- ใช้งานได้ 13 ชม.
- เวลาชาร์จประมาณ 2 ชม.
- แบตเตอรี่อยู่ได้ 10 วัน
- น้ำหนัก 37 กรัม
ราคาที่เพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 บาท กับความสามารถและลำโพง JBL ที่เพิ่มเข้ามานั้น เมื่อเทียบกับ Cardo SPIRIT HD อาจสร้างความลังเลให้กับคุณได้พอสมควร
คำแนะนำที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ คุณจำเป็นต้องมาลองทดสอบเสียงจริงๆ ต้องฟังเองกับหู เพื่อที่จะได้คำตอบชัดเจนที่สุดในเรื่องนี้
รุ่น Freecom 4x (Cardo บลูทูธติดหมวกกันน็อค)
แพงสุดในรุ่นที่แนะนำก็ว่าได้ สำหรับ Cardo Freecom 4x มีราคา 8,600 บาท กับความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาอีกก้าว หากไปเทียบกับรุ่น Freecom 2x
ราคาที่จ่ายแพงขึ้นมา คุณจะได้การรองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 4 เครื่อง ระยะทางการเชื่อมต่อสูงสุด 1.2 กิโลเมตร และมีระบบสั่งการด้วยเสียง ทั้งหมดคือสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่น Freecom 2x
สเปกข้อมูล
- ลำโพงที่ใช้เป็นของ JBL ที่ออกแบบมาเพื่อ CARDO โดยเฉพาะ ขนาดลำโพง 40 มม. (ปรับเสียงแบบอัตโนมัติ) / HD Profiles Audio
- รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 4 คน
- ระบบ Bluetooth intercom
- มีหน้าจอดิจิทัล TFT
- รับคลื่น FM ได้
- ระยะทางเชื่อมต่อไกลสุดที่รองรับ 1.2 กม.
- กันฝน ฝุ่น และหิมะ
- สั่งงานด้วยเสียงได้ “คำสั่ง Hey Cardo”
- มีแอปพลิเคชัน Cardo Connect ให้ใช้งาน
- ใช้งานได้ 13 ชม.
- เวลาชาร์จประมาณ 2 ชม.
- แบตเตอรี่อยู่ได้ 10 วัน
- น้ำหนัก 37 กรัม
ความสามารถหลักๆ ที่เพิ่มขึ้นมาก็คงเป็นเรื่องการเชื่อมต่อที่รองรับสูงสุด 4 เครื่อง กับระยะทางที่ไกลขึ้น เท่ากับว่า Cardo Freecom 4x มีความเหมาะสมที่จะใช้ขับขี่ออกทริปเป็นกลุ่มไม่เกิน 4 คน ในส่วนเรื่องคุณภาพเสียงจากลำโพง จะไม่แตกต่างไปจากรุ่น Cardo Freecom 2x
ถ้าไม่ได้ออกทริปเป็นกลุ่มบ่อย หรือไม่มีความจำเป็นที่ต้องคุยสื่ออะไรกันมากมาย อาจเกิดความลังเลในเรื่องการเลือกซื้อใช้งาน กับราคาที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าถึง 2,000 บาท
ทั้งนี้หากใครสนใจอยากลองเสียง ลองใส่ใช้งานดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อไม่ซื้อ สามารถเข้ามาลองได้ที่ร้าน MOTOFIIX ซึ่งมีให้ลองครอบคลุมทุกรุ่นที่ Cardo จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันก็ว่าได้
สำหรับใครที่สนใจ สามารถสั่งซื้อได้ที่ Website หรือ Facebook MOTOFIIX Thailand แต่ถ้าอยากจะมาที่ร้าน MOTOFIIX Thailand สาขาถนนจันทน์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น.-19.00 น. หรือโทรมาสอบถามได้ที่เบอร์ : 02-048-0408
จุดสังเกต : ระหว่างซอยถนนจันทน์ 28 กับ ถนนจันทน์ 26
สามารถติดตาม ข่าวสาร เทรนด์ และบทความอื่นๆ ได้ที่ เว็บไซต์ MOTOFIIX Thailand