หมวกกันน็อคยุคปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสไตร์ อยู่ที่ความชอบและวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละคน แต่สายรัดคางหมวกกันน็อคที่ใช้กันปัจุบัน น่าจะมีอยู่ 2 แบบ ที่บริษัทผลิตหมวกกันน็อคผลิตมา ได้แก่

ที่มารูปภาพ: FB Real Helmet

สายรัดคางแบบ Grip lock เป็นสายรัดแบบมาตรฐานที่มีอยู่ในหมวกราคาเริ่มต้นที่ไม่แพงมากนัก การใช้งานการใส่การถอดง่ายสะดวก

สายรัดคางแบบ DD ring หรือเรียกกันง่ายๆว่าเงื่อนกระตุก ใช้สำหรับหมวกที่มีตัวล๊อคแบบห่วงเหล็ก 2 ห่วง ซึ่งวิธีนี้ข้อดีคือแข็งแรงยึดแน่น ไม่หลุดง่าย แต่ข้อเสียของมันก็มีอยู่คือหากไม่ชินในช่วงแรกๆจะทำให้การใส่นั้นยากและช้ากว่าแบบ Grip Lock สำหรับผู้ที่คิดค้นวิธีนี้คือ ไมเคิล ดูฮาน อดีตนักแข่งแชมป์โลก GP500

ข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 แบบมีดังนี้
สายรัดคางแบบกลิ๊ปล็อคเสียบ
ข้อดี : สวมใส่ ถอดแกะง่าย สบายมือ เหมาะสำหรับไปที่ใกล้ ๆ หรือต้องถอดสวมหมวกกันน็อคบ่อยครั้ง
ข้อเสีย : สายรัดไม่แน่นเท่าตัวดีดีริงค์ ต้องบำรุงรักษา อาจเสียหรือชำรุดได้ง่ายกว่า
▪สายรัดคางแบบดีดีริงค์
ข้อดี : มีความปลอดภัยสูงสุด ปรับได้ละเอียด แนบแน่น ไม่ต้องบำรุงรักษา ชำรุดยาก เพราะมีแค่ห่วงเหล็กสองอัน เหมาะสำหรับการขับขี่ในทุกสถานการณ์
ข้อเสีย : เริ่มแรกจะใส่ลำบาก ใช้เวลาในการใส่-ถอดนาน และหลายคนยังใช้ไม่เป็น

สำหรับสายรัดคาง Grip Lock ใส่ง่ายเหมาะสำหรับขับขี่ในเมืองหรือสถานที่ที่ไม่ไกลมาก หรือต้องการถอดหรือใส่แบบบ่อยๆ แต่ตัวล๊อคอาจจะชำรุดได้ง่าย ในส่วน DD ring สายรัดแน่นหนา ไม่ต้องบำรุงรักษามากเว้นสายเปื่อย แรกๆจะใส่ยากเล็กน้อย แต่จริงๆก็เลือกได้ทั้ง 2 แบบครับไม่ว่าจะเป็น Grip Lock หรือ DD ring ขอให้ใส่หมวกกันน๊อคและใส่สายรัดคางให้เรียบตลอดการขับขี่เป็นพอ

ขอบคุณข้อมูลจาก Real Helmets