รถมอเตอร์ไซค์มีระบบระบายความร้อนที่แยกออกมาได้แบบเด่นชัดอยู่แค่ 2 ประเภทก็คือระบายความร้อนด้วยอากาศหรือที่เรียกว่าหม้อลม และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำหรือที่เรียกว่าหม้อน้ำ ซึ่งในระบบระบายความร้อนทั้ง 2 นั้น ก็จะมีความต่างที่เราแยกกันออกมาได้หลักๆ ไม่กี่ประเภท ได้แก่

การดูแลรักษา

หม้อลมจะดูแลรักษาได้ง่ายกว่าหม้อน้ำ เพราะหม้อน้ำต้องหมั่นดูแลเรื่อง ซึม หรือรั่ว รวมถึงต้องสังเกตน้ำยาหล่อเย็นว่ายังอยู่เหมาะสมไหม หม้อลมก็แค่หมั่นทำความสะอาดอย่างเดียวก็สบายใจแล้ว

ประสิทธิภาพ

หม้อน้ำรักษาอุณหภูมิได้สม่ำเสมอ (ถ้าระบบสมบูรณ์) และคงประสิทธิภาพกำลังเครื่องยนต์ให้ รีดแรงม้า แรงบิดที่ดีกว่า ซึ่งถ้าเทียบจาก กำลังเครื่องในรุ่นที่ซีซีเท่ากัน หรือใกล้เคียงกัน รุ่นที่ใช้หม้อน้ำจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเพราะพัฒนากันมาแล้ว ส่วนหม้อลมเหมาะกับการวิ่งไกลๆ เครื่องยนต์ทำงานเต็มกำลัง แต่ถ้าวิ่งในเมืองวิ่งแล้วหยุด หม้อลมจะมีการควบคุมอุณหภูมิไม่ค่อยคงที่ การคงประสิทธิภาพกำลังเครื่องยนต์ ในการรีดแรงม้า แรงบิดที่น้อยกว่าหม้อน้ำ

มาตรฐานการปล่อยไอเสีย

การควบคุมมลพิษของมอเตอร์ไซค์ เครื่องยนต์ประเภทระบายความร้อนด้วยอากาศ จะมีค่ามลพิษที่สูงกว่าระบบหม้อน้ำ เพราะเมื่อมีการควบคุมอัตราการปล่อยมลพิษเข้ามา ค่ายรถมอเตอร์ไซค์หลายๆ ยี่ห้อที่ได้พัฒนารถรุ่นใหม่ๆ จากการใช้หม้อลมเป็นการใช้หม้อน้ำในการระบายความร้อน เพราะมีการควบคุมมลพิษที่ดีกว่าหม้อลม สามารถใช้เชื้อเพลิงได้คุ้มค่ามากขึ้น มลพิษลดลงเพราะไอเสียเล็ดลอดได้น้อย การปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ เพื่อความง่ายต่อการควบคุมมลพิษให้ผ่านมาตรฐาน Euro4 Euro5 เพื่อการวางจำหน่ายได้หลากหลายประเทศมากขึ้น

สามารถติดตาม ข่าวสาร เทรนด์ และบทความอื่นๆ ได้ที่ เว็บไซต์ MOTOFIIX Thailand