หมวกกันน็อคที่ได้รับมาตรฐานภายใต้หน้าตาเรียบง่ายนั้น เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ มีหน้าที่ปกป้องส่วนหัวของเรา จากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งหลายครั้งผู้ที่พบกับประสบการณ์จริงจะมาบอกต่อกันเลยว่าคิดถูกจริงๆ ที่ลงทุนซื้อหมวกกันน็อคมาตรฐานดีๆ ป้องกันเราจากเหตุการณ์ร้ายๆ ได้อย่างดี ซึ่งความรู้สึกแบบนั้นเราไม่อยากให้คุณประสบเลย เพื่อความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เราจะพาคุณไปดู 5 ระบบสำคัญของหมวกกันน็อคที่ดี และการทำงานของหมวกกัน

Shell
หมวกกันน็อคเรามี Shell เป็นชั้นแรกของระบบป้องกัน ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับและกระจายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อศรีษะเรา โดยวัสดุที่ใช้โดยทั่วไปมี 2 แบบ คือ ไฟเบอร์กลาส และ โพลีคาร์บอเนต
เปลือกที่ทำจากไฟเบอร์กลาส จะมีการผสมผสานส่วนผสมที่ทำให้เกิดความแข็งแรงยิ่งขึ้นได้อีก เช่น  ไฟเบอร์กลาส, คาร์บอนไฟเบอร์ หรือ เส้นใยอะรามิด และบางแบรนด์ได้ใช้หลายวัสดุวางเรียงเป็นชั้นๆ ตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดความแข็งแรงมากที่สุด และเป็นจุดขายของพวกเขาด้วย
และเปลือกที่ทำจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนตทั้งชิ้น หมวกชนิดนี้จะมีราคาที่เป็นมิตรมากขึ้น แต่แลกมาด้วยขนาดที่หนาขึ้น และน้ำหนักที่มากขึ้น
Shell ที่ทำจากวัสดุ 2 ชนิดนี้ ถ้าตกหล่น หรือนั่งๆติดไฟแดงอยู่เกิดเป็นลื่นกล้วยล้มหัวกระแทกเบาๆ มีรอยขีดข่วน ก็จะไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปกป้องศรีษะคุณ เรียกได้ว่าจิ๊บๆแค่รอยเกา  แต่หากเกิดการกระแทกที่รุนแรงขึ้น ทำให้คุณไม่มั่นใจก็ส่งหมวกกลับไปให้ผู้ผลิตตรวจสอบได้ว่ายังใช้งานได้ดีอยู่มั้ย สิ่งที่จะบ่งบอกว่า Shell เปลือก หรือหมวกกันน็อคของคุณ หมดอายุแน่ๆ คือมันแตกนั่นเอง

EPS Liner
ระบบที่ 2 ลองนึงถึงคุณล้มด้วยความเร็ว 140 กิโลฯ / ชม. ตัวไถลไปด้วยความเร็วและหัวคุณกำลังจะกระแทกกับมุมฟุตบาทที่ทำด้วยปูนคอนกรีต EPS Liner คือสิ่งที่สำคัญมากที่จะทำให้คุณปลอดภัย เวลาเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด มันจะติดหัวคุณไปตลอด มันจะปกป้องไม่ให้วัสดุใดๆ มากระทบศรีษะคุณโดยตรงได้

Expandable Polystyrene (EPS) สร้างมาจาก พอลิสไตรีน (polystyrene) ที่มีคุณสมบัติที่ป้องกันแรงกระแทกได้ดีมาก มีน้ำหนักเบา คงทนต่อความชื้น ความเย็น ไม่มีกลิ่น ไม่เป็นพิษ และผิวไม่แข็งกระด้าง และจากกระบวนการผลิตทำให้มันมีความหนาแน่นที่แตกต่างหลายระดับ ซึ่งเมื่อเกิดแรงกระแทก ความหนาแน่นพวกนั้นจะเป็นตัวช่วยลดการสั่นสะเทือนปกป้องศรีษะคุณเวลาเกิดการกระแทกจากอุบัติเหตุ แต่เมื่อเกิดการกระแทกอย่างรุนแรงแล้ว EPS จะไม่กลับมาคงรูปแบบเดิมอีก ดังนั้นเพื่อประสิทธิภาพที่สมบูรณ์แบบ ควรจะเปลี่ยนมันหลักจากเกิดการกระแทกรุนแรงมาแล้ว
บางแบรนด์จะซ้อน EPS Lines มาถึงสองชั้น เพื่อปกป้องศรีษะคุณอย่างเต็มที่ และถ้าคุณโชคดีศรีษะคุณก็จะรองรับ EPS อย่างพอดีใส่แล้วรู้สึกสบาย แต่ถ้ามันไม่ได้โชคดีขนาดนั้น ลองสวมแล้วหลวมไป หรือคับไป เราแนะนำว่าให้คุณปรับแต่งตรงจุดอื่นๆเพื่อให้สวมใส่ได้พอดีขึ้น เช่นปรับเพิ่มหรือลดขนาดที่แผ่นแก้ม หรือ Comfort liner แทน

Comfort liner
ระบบที่ 3 คือส่วนที่จะทำให้คุณสวมใส่หมวกกันน็อคได้อย่างสบาย งานหลักของมันคือยึดมั่นให้หมวกกันน็อค อยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับศรีษะของคุณอย่างนุ่มนวล นอกจากนี้ยังมีผลต่อระดับเสียงรบกวนภายในหมวกกันน็อค ช่วยดูดซับเหงื่อ หมวกที่ดีเราจะสามารถถอด Comfort liner แยกชิ้นออกมาทำความสะอาดได้ นักบิดส่วนใหญ่จะตัดสินใจเลือกหมวกกันน็อคมาจากเจ้าตัวนี้เป็นหลัก ถ้าสวมใส่แล้วสบายหัว พอดีหมวก กระชับมั่นคง นั่นแหละมันเนื้อคู่ของคุณ

Face shield
ระบบที่ 4 ชิลด์หน้า แน่นอนมันต้องใสปิ๊ง และชัดเจน แต่มันยังไม่พอหรอกนะ มันยังต้องช่วยปกป้องสายตา และใบหน้าอันเหล่อเหลาของคุณจากอะไรก็ตามที่อยู่บนถนน และมันพร้อมจะเด้งขึ้นมากระแทก เพราะฉะนั้นชิลด์หน้าที่ดีต้องทำมาจาก  โพลีคาร์บอเนต และมีการรับรองการต้านทานการเจาะกระแทกด้วยก็จะดีมาก

Retention system
ถ้าไม่เรียกตามที่วิศวกรเรียก เราจะเรียกมันว่า Chinstrap หรือ สายรัดคาง นั่นเอง มันจะยึดติดอยู่กับ เปลือก (Shell) มีหน้าที่ยึดหมวกกันน็อคไว้กับศรีษะคุณ และมันจะต้องผ่านการทดสอบหลายอย่างที่วัดได้ว่า ทน ต่อการถูกดึงออก ทนต่อแรงเหวี่ยง และการกระชาก สายรัดคางมีการทำงานด้วยรูปแบบที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกมี 3 รูปแบบ ดังนี้ double D-ring, ratchets และ buckles ซึ่งได้ผ่านการทดสอบทั้งหมดแล้ว แต่ระบบที่ผู้ขับขี่และนักแข่งเกือบทุกคนชอบและเลือกใช้คือระบบ double D-ring เพราะมันไม่มีระบบซับซ้อน สามารถรัดให้กระชับศรีษะได้ง่าย และมีความเหนียวแน่นที่ดีมาก

เพื่อความปลอดภัยสูงสุดต่ออวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกายเรา อย่าลืม!! ขับขี่ปลอดภัย รักษาวินัยจราจร และสวมหมวกทุกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.cbrsclub.com/