ถ้าคุณไม่ใช่คอรถวิบาก อาจจะไม่คุ้นชินกับรถมอเตอร์ไซค์หน้าตาแบบนี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นรถวิบากเพื่อใช้ในการแข่งขันแบบกีฬา X-Trial เพียงเท่านั้น ไม่สามารถใช้ขับขี่ได้ในชีวิตปกติได้จริงๆ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดนั้นเอง

สำหรับ Yamaha TY-E 2.0 ที่บริษัทได้โฉมตัวออกมานั้น ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาอยู่เลย เรียกง่ายๆ ว่าเป็นรถ “ต้นแบบ” นั้นเอง ซึ่งความพิเศษที่แตกต่างจากรถรุ่นก่อนๆ จะเป็นเรื่องของพลังงานไฟฟ้าเพียงเท่านั้น เรียกง่ายๆ ว่า Yamaha TY-E 2.0 เป็นรถวิบากไฟฟ้า

เป้าหมายสำคัญของยามาฮ่าก็คือ การแข่งขัน  X-Tria ที่งาน FIM (Fédération Internationale de Motocyclisme) ในปี 2022 และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะได้เห็น Yamaha TY-E 2.0 ในงานนี้แน่นอน

Yamaha TY-E 2.0 อยู่ภายใต้แนวคิดที่ชื่อว่า FUN x EV ซึ่งมุ่งเน้นความสนุกสนานในการขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์สันดาป โดยจะดึงเอาศักยภาพของมอเตอร์ไฟฟ้ามาเป็นความโดดเด่น อาทิ แรงบิดที่มหาศาล ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่เร็วแรงกว่าเครื่องยนต์สันดาปนั้นเอง

ทั้งนี้ Yamaha TY-E 2.0 เรียกได้ว่าเป็นร่างพัฒนาต่อยอดมาจาก TY-E model ที่เปิดตัวไปในปี 2018 โดย Yamaha TY-E 2.0 ได้ยกเอาจุดเด่นสำคัญในเรื่องโครงสร้างแบบ Monocoque มาเป็นจุดขาย ซึ่งทางบริษัทเคลมเรื่องน้ำหนักของรถไว้ว่า มันเบากว่าต้นแบบถึง 2.5 เท่า

โครงสร้างแบบ Monocoque

เรียกได้ว่าเป็นโครงสร้างแบบชิ้นเดียว ทำขึ้นจากวัสดุที่มีชื่อว่า Composite Laminates (คอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์ลามิเนต) โดยมีน้ำหนักที่เบา และมีความแข็งแกร่ง

แบตเตอรี่น้ำหนักเบา

ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถไฟฟ้าก็ว่าได้ สำหรับแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่ของ Yamaha TY-E 2.0 ได้ถูกพัฒนาให้มีน้ำหนักที่เบา และตัวแบตมีความจุของไฟเพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า

ข้อมูลที่เปิดเผยมาของ Yamaha TY-E 2.0 ในเรื่องน้ำหนัก จะอยู่ที่ 70 กิโลกรัมเพียงเท่านั้น ซึ่งถือว่าเบามากๆ และจะส่งผลต่อการขับขี่ควบคุมที่ง่ายนั้นเอง

ถึงแม้ Yamaha TY-E 2.0 จะดูเป็นรถที่ไม่มีเทคโนโลยีใดๆ สักเท่าไหร่ แต่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใส่ให้มาใช้งานกับรถ เรียกได้ว่าเป็นของไม่ธรรมดา ราคาไม่ต้องพูดถึงว่าขนาดไหน ไว้รอทาง Yamaha เปิดขายเมื่อไหร่ ค่อยดูมากันว่า Yamaha TY-E 2.0 จะไปจบที่ราคาเท่าไหร่ ?